“ยางรถยนต์” ถือเป็นชิ้นส่วนสำคัญของรถยนต์ทุกคันบนโลก นอกจากจะทำหน้าที่เป็นตัวกลางส่งพลังการขับเคลื่อนของรถไปสู่พื้นผิวถนนแล้ว ยางแต่ละเส้นยังมีความแตกต่างกันในแง่คุณสมบัติและสมรรถนะการขับขี่ ซึ่งผู้ใช้รถจะต้องเลือกใช้ยางให้เหมาะกับรถยนต์ของตัวเอง เพื่อเสริมสมรรถนะของรถยนต์และเพิ่มความปลอดภัย ดังนั้นวันนี้ insurverse จึงจะพาทุกคนไปทำความรู้จักกับยี่ห้อยางรถยนต์ที่ได้รับความนิยม รวมถึงวิธีเลือกยางให้เหมาะกับรถ
ปัจจุบันในท้องตลาดมียี่ห้อยางรถยนต์มากมายนับไม่ถ้วน แต่จะขอยกตัวอย่าง 5 ยี่ห้อที่มีชื่อเสียงและได้รับความนิยมสูงมาให้ทุกคนได้รู้จักกัน ดังนี้
1. Bridgestone
แบรนด์ยางรถยนต์สัญชาติญี่ปุ่น ก่อตั้งเมื่อปี 1931 ถือเป็นแบรนด์ผู้ผลิตยางรถยนต์รายใหญ่อันดับต้น ๆ ของโลก และครองยอดขายอันดับ 1 ในไทยตลอดช่วงหลายปีที่ผ่านมา
2. Yokohama
แบรนด์ยางรถยนต์สัญชาติญี่ปุ่น ก่อตั้งเมื่อปี 1917 โดดเด่นเรื่องการพัฒนายางที่สามารถขับขี่ด้วยความเร็วสูงได้อย่างมีเสถียรภาพและประหยัดน้ำมัน เหมาะสำหรับการขับขี่ในชีวิตประจำวัน
3. Hankook
แบรนด์ยางรถยนต์สัญชาติเกาหลีใต้ ก่อตั้งเมื่อปี 1941 มีชื่อเสียงอย่างมากด้านการพัฒนายางสำหรับรถความเร็วสูงอย่างรถแข่งหรือรถสปอร์ต เพิ่มประสิทธิภาพในการควบคุมรถและลดแรงเสียดทาน
4. Goodride
แบรนด์ยางรถยนต์สัญชาติจีน ก่อตั้งเมื่อปี 1958 โดดเด่นเรื่องการพัฒนายางนุ่มเงียบและยางประหยัดน้ำมันในราคาที่ใครก็เอื้อมถึง
5. Nexen
แบรนด์ยางรถยนต์สัญชาติเกาหลีใต้ ก่อตั้งเมื่อปี 1942 โดดเด่นเรื่องการใช้วัสดุคุณภาพสูงในการผลิตยาง มีการออกแบบดอกยางที่เป็นนวัตกรรมใหม่ ช่วยเพิ่มสมรรถนะให้รถยนต์มากขึ้น
การเลือกยางรถยนต์นอกจากจะพิจารณาจากยี่ห้อยางรถยนต์แล้ว ยังต้องเลือกยางให้เหมาะกับขนาดของรถและการใช้งานด้วย
ยางรถยนต์สามารถแบ่งออกได้เป็น 3 ประเภท ตามลักษณะการออกแบบมาให้เหมาะสมกับพื้นผิวถนน ได้แก่
– ยางรถยนต์ HT (Highway Terrain) เหมาะสำหรับถนนทั่วไป
– ยางรถยนต์ AT (All Terrain) เหมาะสำหรับถนนขรุขระไม่มากนัก
– ยางรถยนต์ MT (Mud Terrain) เหมาะสำหรับถนนขรุขระ ทางทุรกันดาร
ควรเลือกยางรถยนต์ที่มีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางเหมาะสมกับขนาดของรถยนต์ ซึ่งสามารถดูได้จากตัวเลขที่อยู่บนแก้มยาง ได้แก่
– ยางรถยนต์ขอบ 15 นิ้ว (R15) สำหรับรถเก๋งขนาดเล็กไปจนถึงขนาดกลาง รวมถึงรถ Eco Car
– ขอบ 15 – 17 นิ้ว (R16/R17) เหมาะสำหรับรถเก๋งขนาดเล็กและขนาดกลาง
– ยางรถยนต์ขอบ 18 – 19 นิ้ว เหมาะสำหรับรถ SUV และรถเก๋งขนาดใหญ่
– ขอบ 20 นิ้วขึ้นไป (R20) เหมาะสำหรับรถสปอร์ตและรถออฟโรด
เจ้าของรถคนไหนที่ไม่ค่อยได้ใช้งานรถยนต์หรือใช้ขับขี่ในเมืองระยะทางใกล้ ๆ เป็นหลัก ควรเลือกยางรถยนต์ที่ขับขี่ได้นุ่มนวล ลดเสียงรบกวน ไม่เน้นขับขี่ด้วยความเร็วสูง และหากเป็นไปได้ให้เลือกยางที่มีคุณสมบัติช่วยประหยัดน้ำมัน ซึ่งยางประเภทนี้แม้ว่าจะนิยมใช้ใน Eco Car แต่ก็สามารถใช้งานกับรถยนต์ประเภทอื่น ๆ ไม่ว่าจะเป็น SUV MPV PPV รวมไปถึงรถกระบะ เหมาะสำหรับขับขี่ในชีวิตประจำวันบนพื้นถนนในเมือง
โดยทั่วไปยางรถยนต์จะมีอายุการใช้งานเฉลี่ยที่ 40,000 – 50,000 กิโลเมตร หรือประมาณ 3 – 5 ปี และควรเปลี่ยนยางรถยนต์เมื่อดอกยางสึกหรอจนเหลือขนาดน้อยกว่า 1.6 มม. หรือมีสัญญาณอื่น ๆ เช่น ยางบวม ยางเสียรูปทรง ผิวยางแตกร้าว เป็นต้น
ทั้งหมดนี้คือยี่ห้อยางรถยนต์และสาระน่ารู้ต่าง ๆ เกี่ยวกับยางรถยนต์ที่เรานำมาฝากกันในวันนี้ หวังว่าจะช่วยให้ทุกคนสามารถเลือกยางที่เหมาะกับรถของตัวเองได้ และสำหรับเจ้าของรถคนไหนที่เป็นกังวลเรื่องการเกิดอุบัติเหตุในระหว่างขับขี่รถยนต์ นอกจากการเลือกยางให้เหมาะสมแล้ว การทำ ประกันรถชั้น 2+ ถือเป็นอีกหนึ่งวิธีที่จะช่วยเพิ่มความอุ่นใจในการใช้รถยนต์ให้คุณได้ โดยสามารถ เช็กเบี้ยประกันรถยนต์ ออนไลน์ที่หน้าเว็บไซต์ insurverse ได้ด้วยตัวเองตลอด 24 ชั่วโมง
check_circleคัดลอกลิงก์เรียบร้อย
การดูแลรถยนต์ไม่ได้มีแค่การล้างให้สะอาด หรือเติมน้ำมันให้เต็ม แต่ยังมีเรื่อง "การเช็คระยะ" ที่เป็นเหมือนกับการตรวจสุขภาพให้รถของคุณ
การเลือกรถยนต์ไม่ได้มีแค่ดูดีไซน์หรือฟีเจอร์ภายใน แต่ยังต้องเข้าใจ "แรงม้า" และ "แรงบิด" ที่เป็นตัวชี้วัดสมรรถนะของเครื่องยนต์อีกด้วย
ใบขับขี่สากล หรือ International Driving Permit (IDP) เป็นเอกสารที่อนุญาตให้คุณขับขี่ยานพาหนะในต่างประเทศได้ตามกฎหมาย โดยใบขับขี่สากลนี้ใช้ร่วมกับใบขับขี่ในประเทศไทยของคุณ