ไปญี่ปุ่นงบเท่าไหร่ดี!? คำถามที่หลายคนมักจะสงสัยเวลาแพลนไปญี่ปุ่นครั้งแรก ถ้าจะไปเที่ยวญี่ปุ่น 2 คนใช้เงินเท่าไหร่? กะงบเท่าไหร่ถึงจะพอ ใครกำลังเจอปัญหานี้ไม่ต้องเกาหัวอีกต่อไป เพราะวันนี้ insurverse จะมากางแพลนแบบเคลียร์ๆ ว่าเที่ยวญี่ปุ่นงบเท่าไหร่เที่ยวสบายที่สุด! เจาะลึกกันไปเลยชัดๆ ว่าแต่ละเมืองไปทีนึงนี่ต้องใช้เงินเท่าไหร่? รวมไปถึงงบซื้อประกันเดินทางต่างประเทศที่จำเป็นด้วย จะได้กำหนดงบเที่ยวญี่ปุ่น 5 วัน 7 วันได้ถูก ไม่ต้องมากังวลว่าเงินที่เตรียมไว้จะไม่พอเที่ยวหรือจะตอบโจทย์ความปลอดภัยในการท่องเที่ยวด้วยไหม!
สิ่งสำคัญก่อนที่เราจะไปกางงบเตรียมไปเที่ยวญี่ปุ่นงบเท่าไหร่? นอกจากเรื่องประกันเดินทางที่ขาดไม่ได้แล้ว ก็ยังมีเอกสารจำเป็นต่างๆ ที่ทำให้สามารถเดินทางไปเที่ยวญี่ปุ่นได้ ถ้าขาดสิ่งใดสิ่งหนึ่งไปละก็ แพลนเที่ยวอาจจะล่มเลยก็ได้ มีอะไรบ้างมาดูกัน!
Passport หรือหนังสือเดินทางเป็นใบเบิกทางที่ขาดไม่ได้ เวลาที่จะต้องเดินทางไปต่างบ้านต่างเมือง ให้ตรวจสอบความเรียบร้อยของ Passport ทุกครั้งว่าหมดอายุหรือยัง? สิ่งสำคัญก็คือ จะต้องมีอายุการใช้งานเหลืออย่างน้อย 6 เดือนนับจากวันหมดอายุก่อนออกเดินทางด้วย ไม่อย่างนั้นจะเข้าประเทศเขาไม่ได้! หากใครพึ่งทำพาสพอร์ตมาใหม่ก็พร้อมออกเดินทางได้เลยจ้ะ วันหมดอายุเหลือๆ เที่ยวได้ชิลล์ไม่ต้องกังวลใจ!
อีกหนึ่งสิ่งที่ต้องเตรียมก็คือการเข้าไปกรอกข้อมูลการเดินทางเข้าประเทศ, การตรวจสอบสุขภาพ, เอกสารตรวจคนเข้าเมืองล่วงหน้าใน Visit Japan Web ซึ่งเป็นเว็บที่รัฐบาลญี่ปุ่นเขาทำขึ้นมาเพื่ออำนวยความสะดวกนักท่องเที่ยวในการเดินทางเข้าประเทศญี่ปุ่น
หากใครไปเที่ยวญี่ปุ่นในระยะเวลาไม่เกิน 15 วัน ไม่จำเป็นต้องของ Visa ญี่ปุ่น แต่ถ้าเกินกว่านั้น โดยมีจุดประสงค์ไปเรียน, ทำงานหรือทำอะไรอื่นๆ ที่ไม่ใช่การท่องเที่ยวเพียงอย่างใด ควรยื่นขอ Visa ญี่ปุ่นกับสถานทูตหรือสถานกงสุลญี่ปุ่นในไทยล่วงหน้าเอาไว้เลย รีบทำตั้งแต่เนิ่นๆ เพราะขั้นตอนนี้อาจจะใช้ระยะเวลารอนานกว่าปกติ เพราะถ้าใครไปทำใกล้ๆ วันเดินทางอาจจะเสี่ยงทำให้เดินทางไม่ทันได้นะ
ได้เวลามาเช็คกันแล้วว่าไปญี่ปุ่นงบเท่าไหร่สำหรับตั๋วเครื่องบินถึงจะเที่ยวสนุกสาแก่ใจนักเที่ยว insurverse แยกงบมาให้ตามเมืองที่ไปเลย จะได้เตรียมกันไปถูกว่าตั๋วสำหรับไปเที่ยวญี่ปุ่นงบ 30,000 พอไหม? หรือต้องเตรียมงบไปเท่าไหร่?
ค่าตั๋วไปกลับกรุงเทพ-นาริตะ จะอยู่ที่ประมาณ 15,000-25,000 บาท แล้วแต่ช่วงฤดูกาล ถ้าเป็นช่วง High Season เช่น ปลายปี, มีนาคม-เมษายน ราคาตั๋วก็จะสูงกว่าปกติ ให้เผื่องบตรงส่วนนี้เพิ่มด้วย!
งบเที่ยวญี่ปุ่นสำหรับใครที่ไปโตเกียวแล้วไปลงสนามบิน Haneda ค่าตั๋วก็จะไม่ต่างจากการไปลงที่ Narita มากนักอยู่ที่ราวๆ 15,000-25,000 บาทหรืออาจจะต่ำกว่านี้เล็กน้อย
ไปญี่ปุ่นงบเท่าไหร่? ถ้าไปฟุกุโอกะ จะบอกว่าค่าตั๋วเครื่องบินถูกกว่าที่คิดนะ เริ่มต้นที่ราวๆ 12,000 บาทหรือต่ำกว่านี้เล็กน้อย สูงสุดอยู่ที่ราวๆ 20,000 บาท แนะนำให้บินไปช่วงกลางๆ ปีตั๋วจะถูกมาก
เที่ยวญี่ปุ่นงบเท่าไหร่สำหรับใครบินไปนาโกย่า เตรียมค่าตั๋วเครื่องบินเอาไว้เลย 14,000-22,000 บาท หรืออาจจะราคาสูงกว่านี้หน่อยช่วงสิ้นปี แล้วแต่สายการบินและประเภทของเที่ยวบินที่เลือกด้วย
ค่าตั๋วเครื่องบินนางาซากิ ไม่หนีจากนาโกย่ามากนัก ไป-กลับอยู่ที่ราวๆ 14,000-24,000 บาท อาจจะราคาสูงกว่าหน่อยในช่วงเทศกาล ถ้าอยากได้ตั๋วถูกๆ แนะนำให้ไปกลางปีจะดีที่สุด
ใครจะไปอิชิงากิต้องกระเป๋าหนักหน่อย เพราะค่าตั๋วเครื่องบินราคาสูงสุดอยู่ที่ราวๆ 30,000 บาท เพราะส่วนใหญ่แล้วจะไม่มีไฟลท์บินตรง อาจจะต้องไปต่อเครื่อง ซึ่งทำให้ราคาสูงกว่าเที่ยวบินไปเมืองอื่นๆ
โอกินาว่าเป็นอีกหนึ่งเมืองในญี่ปุ่นที่ค่าตั๋วไม่สูงมาก บางทีถ้าหาสายการบินโลว์คอสต์แล้วไปในช่วงที่ไม่ใช่เทศกาลก็อาจจะเริ่มต้นที่หลักพัน สูงสุดก็ไม่เกิน 15,000 บาท ใครงบน้อย อยากไปเที่ยวแบบประหยัดตั้งแต่เริ่มต้นเดินทาง เมืองนี้ถือเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ
ซัปโปโร เมืองแห่งความหนาวเหน็บของญี่ปุ่น ราคาตั๋วเครื่องบินไป-กลับ เริ่มต้นที่ 15,000 บาท มากสุดก็อยู่ที่สัก 20,000-30,000 บาท แล้วแต่ว่าไปช่วงไหน ถ้าช่วงเทศกาลก็ราคาก็อาจจะสูงหน่อย
นอกจากค่าตั๋วเครื่องบินแล้ว อย่าลืมแพลนงบเที่ยวญี่ปุ่นในส่วนของค่าที่พักและค่าจิปาถะอื่นๆ กันด้วย insurverse แจกแจงมาให้แล้วว่าจะต้องเตรียมในส่วนไหนเพิ่มเอาไว้อีกบ้าง เที่ยวญี่ปุ่นงบเท่าไหร่ไปดูกันเลย
ที่พักในญี่ปุ่นมีความหลากหลาย ทั้งแบบโฮสเทลที่นอนรวมกัน, โรงแรมแคปซูลไปจนถึงโรงแรมหรู คือถ้าค่ำไหนนอนนั่นไม่คิดอะไรมาก นอนรวมได้ ก็จะประหยัดไปได้เยอะ เพราะโรงแรมประเภทนี้เริ่มต้นที่หลักร้อย แต่ถ้าเป็นโรงแรมหรูๆ หลักพัน หลักหมื่นก็มีเหมือนกัน แนะนำให้เช็คราคาให้ชัวร์ก่อนไป รวมถึงช่วงเวลาที่จะไปด้วย เพราะส่งผลต่อการเปลี่ยนแปลงของราคา
ไปญี่ปุ่นงบเท่าไหร่ถ้าไปแล้วเน้นตะลุยกิน แนะนำให้เตรียมไปเลยวันละ 300-1,500 บาท เพราะอาหารญี่ปุ่นเขามีให้เลือกเยอะมากกกก ทั้งร้านอาหารเจ้าดัง, สตรีทฟู้ด เห็นอะไรก็น่ากินไปหมดหรือถ้าอยากลองลิ้มชิมมื้อพิเศษสุดหรู ก็เตรียมเอาไว้เลย 2,000-5,000 บาทต่อมื้อ
ค่าเข้าชมสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ มีราคาที่ไม่ตายตัว ส่วนใหญ่จะเริ่มต้นที่ 150 บาท แพงสุดไปจนถึง 600 บาท วางแพลนให้ดีว่าแต่ละวันจะไปเที่ยวชมที่ไหนบ้าง? เพื่อจะได้แพลนงบในส่วนนี้ต่อวันได้อย่างเหมาะสม
สำหรับค่าของฝาก อันนี้ก็ขึ้นอยู่กับประเภทสินค้าว่าเราต้องการซื้ออะไรกลับไปฝากเพื่อนหรือครอบครัว ซึ่งถ้าเป็นของฝากแนวๆ ขนม, อาหารต่างๆ ก็อยู่ที่หลักร้อยไปจนถึงหลักพันหรือถ้าเป็นพวกกระเป๋า, เสื้อผ้า, น้ำหอม อันนี้ก็เตรียมไว้เลย 2,000-5,000 บาท ส่วนใครเพื่อนน้อยงบตรงนี้ก็น้อยตามเจียดงบตรงนี้ซื้อประกันดีๆ และเสริมความคุ้มครองให้ตัวเองปลอดภัยเพิ่มกับ insurverse ได้ เพียงงบเริ่มต้นแค่หลักสิบต่อวัน แต่รับความคุ้มครองสูงสุดถึงหลักล้านเลยทีเดียว จะได้อุ่นใจเดินทางอย่างปลอดภัยตลอดทริป!
การเดินทางโดยรถโดยสารประเภทต่างๆ ในญี่ปุ่น ไม่แพงอย่างที่คิด รถไฟใต้ดินเฉลี่ยแล้วอยู่ที่ประมาณ 50-130 บาทต่อเที่ยว ถ้าอยากประหยัดมากขึ้นแนะนำให้ซื้อ JR PASS ไปเลย จ่ายครั้งเดียวเริ่มต้น 3,000 บาท เดินทางด้วยการโดยสารด้วยรถไฟและรถบัสแบบไม่อั้น! ประหยัดขึ้นไปอีกหลายเท่าตัว!
เคลียร์กันแล้วแบบนี้ว่าไปญี่ปุ่นงบเท่าไหร่? หลายๆ คนก็จะได้เบาใจในเรื่องค่าใช้จ่ายมากขึ้น ก่อนไปจะได้แลกเงินให้ตรงตามไลฟ์สไตล์การเที่ยวที่ต้องการ แล้วก็อย่าลืมเด็ดขาด! ไอเทมสำคัญสำหรับการท่องเที่ยวก็คือประกันเดินทางต่างประเทศ หลักประกันสำคัญที่จะช่วยทำให้การเที่ยวญี่ปุ่นของคุณอุ่นใจและราบรื่น ถ้าไม่รู้ว่าจะซื้อประกันท่องเที่ยวที่ไหนดี แนะนำให้เลือก insurverse เอาไว้เลย คุ้มครองถูกใจ จะไปไหนก็มีแต่คำว่าคุ้มค่า ดูแลคุณทุกย่างก้าวในการเดินทาง! จะไฟลท์ดีเลย์, ตั๋วเครื่องบินถูกแคนเซิล, เกิดเหตุจนไม่สามารถเข้าพักโรงแรมได้หรืออะไรต่อมิอะไรที่อาจจะเกิดขึ้นได้แบบที่เราไม่คาดคิด! ประกันเดินทางออนไลน์ insurverse จะชดเชยให้คุณแบบเต็ม Max แน่นอน! คุ้มและดีต่อใจ ปรับราคาและความคุ้มครองได้เองแบบนี้มีแต่ที่ insurverse เท่านั้น!
check_circleคัดลอกลิงก์เรียบร้อย
อยากเที่ยวนะ? ทุกคนรู้ แฟนคลับรู้ แต่ไม่รู้จะไปไหนดีและไม่รู้รถยนต์ส่วนตัวมีไหน? ถ้าอยากเที่ยวแต่รถส่วนตัวไม่พร้อมออกเดินทาง
แบบใหม่แบบสับกับการเดินทางด้วย Airport Link อำนวยความสะดวกในการเดินทางที่เร็วไวแถมไฮเทคเกินต้าน! มาดูกันกับ How to หนีรถติดยังไง
เดินทางสะดวกกว่าเดิมด้วยโครงการ airportlink รถติดแค่ไหนก็ไม่เสียอารมณ์! ไม่ว่าจุดหมายปลายทางจะอยู่ที่ไหน? ก็ไปเช็คอินได้ทุกที่!