vertical_align_top
keyboard_arrow_leftย้อนกลับ
ล่าแสงเหนือให้สุด ฟินแลนด์ ไอซ์แลนด์ นอร์เวย์ เลือกที่ไหนดี?

ล่าแสงเหนือให้สุด ฟินแลนด์ ไอซ์แลนด์ นอร์เวย์ เลือกที่ไหนดี?

schedule
share

แสงเหนือ หรือที่เรียกว่า Aurora Borealis คือปรากฏการณ์ทางธรรมชาติที่เกิดขึ้นเมื่ออนุภาคจากดวงอาทิตย์ปะทะกับชั้นบรรยากาศโลก ทำให้เกิดแสงสีเขียว ชมพู หรือม่วง ส่องสว่างบนท้องฟ้ายามค่ำคืน แสงเหนือจะปรากฏเฉพาะในพื้นที่ใกล้ขั้วโลกเหนือ ทำให้การล่าแสงเหนือเป็นภารกิจที่หลายคนอยากสัมผัสด้วยตาตัวเองสักครั้ง เพราะนอกจากความสวยงามแล้ว ยังเป็นประสบการณ์ที่ยากจะลืมได้

การได้เห็นแสงเหนือด้วยตาตัวเองเป็นเหมือนการได้สัมผัสเวทมนตร์จากธรรมชาติ แต่ก่อนจะออกเดินทางไปตามล่าความฝันนี้ อย่าลืมเช็กเบี้ยประกันเดินทางจาก insurverse เพราะการเดินทางไกลในอากาศหนาวจัดแบบนี้ อาจมีเหตุฉุกเฉินที่คาดไม่ถึงได้ เบี้ยเริ่มต้นแค่ 59 บาทต่อทริป แต่ความคุ้มครองจัดเต็มตั้งแต่กระเป๋าเดินทางหาย ไฟล์ทดีเลย์ ไปจนถึงค่ารักษาพยาบาลฉุกเฉิน

เมื่อไหร่ถึงจะเห็นแสงเหนือ?

แสงเหนือจะปรากฏเฉพาะช่วงฤดูหนาวในเขตขั้วโลกเหนือ ตั้งแต่เดือนกันยายนถึงเมษายน ช่วงเวลาที่เหมาะที่สุดคือเดือนตุลาคมถึงมีนาคม เพราะท้องฟ้ามืดสนิทและมีโอกาสเห็นแสงเหนือชัดเจนขึ้น ช่วงพระจันทร์เต็มดวงอาจทำให้แสงเหนือดูจางลง ดังนั้นควรเลือกช่วงที่ไม่มีแสงจันทร์รบกวน

เวลาที่แสงเหนือมักปรากฏคือระหว่าง 22.00 น. ถึง 02.00 น. แต่ก็ไม่มีกฎตายตัว บางคืนอาจต้องรอหลายชั่วโมงถึงจะเห็น บางคืนอาจโชคดีเห็นทันทีที่ฟ้ามืด ความแรงของแสงเหนือขึ้นอยู่กับกิจกรรมทางสุริยะ (Solar Activity) การตรวจสอบพยากรณ์แสงเหนือผ่านแอปพลิเคชันเช่น Aurora Forecast จะช่วยเพิ่มโอกาสในการเห็นแสงเหนือ

ประเทศยอดฮิตสำหรับการล่าแสงเหนือ

ฟินแลนด์ ดินแดนแห่งซานต้าและแสงเหนือ

ฟินแลนด์เป็นหนึ่งในประเทศที่มีโอกาสเห็นแสงเหนือสูง โดยเฉพาะในแถบแลปแลนด์ เมือง Rovaniemi ถือเป็นจุดเริ่มต้นยอดนิยมสำหรับนักล่าแสงเหนือ ที่นี่คุณสามารถนอนใน Glass Igloo เพื่อชมแสงเหนือผ่านหลังคาแก้ว หรือจะไปผจญภัยด้วยการขับสโนว์โมบิลและล่าแสงเหนือในป่าหิมะก็ได้

  • Rovaniemi: บ้านของซานตาคลอสและหนึ่งในเมืองที่มีโอกาสเห็นแสงเหนือสูงที่สุด
  • Kakslauttanen Arctic Resort: รีสอร์ตที่มี Glass Igloo ให้คุณนอนดูแสงเหนือจากเตียงนุ่ม ๆ
  • Inari: เมืองเล็ก ๆ ที่เหมาะสำหรับคนที่ชอบความสงบและต้องการสัมผัสแสงเหนือแบบส่วนตัว

ไอซ์แลนด์ ดินแดนแห่งน้ำแข็งและไฟ

ไอซ์แลนด์ไม่ได้มีดีแค่ภูเขาไฟ น้ำตก และธารน้ำแข็ง แต่ยังเป็นหนึ่งในสถานที่ที่เหมาะกับการล่าแสงเหนือด้วย เมือง Reykjavik เป็นจุดเริ่มต้นที่ดีสำหรับการเดินทางไปชมแสงเหนือรอบ ๆ เกาะ นอกจากนี้ยังสามารถไปแช่น้ำร้อนใน Blue Lagoon ขณะรอดูแสงเหนือได้อีกด้วย

  • Reykjavik: เมืองหลวงที่สะดวกสำหรับการเดินทางไปล่าแสงเหนือในพื้นที่ใกล้เคียง
  • Thingvellir National Park: จุดที่แผ่นเปลือกโลกยูเรเซียนและอเมริกาเหนือตัดกัน เหมาะสำหรับการล่าแสงเหนือ
  • Jökulsárlón Glacier Lagoon: ลากูนธารน้ำแข็งที่มีภูมิทัศน์สวยงามและเป็นจุดล่าแสงเหนือยอดฮิต

นอร์เวย์ ดินแดนแห่งฟยอร์ดและแสงเหนือ

นอร์เวย์มีเมือง Tromsø ที่ได้รับฉายาว่า “เมืองหลวงแห่งแสงเหนือ” เพราะมีโอกาสเห็นแสงเหนือสูงมาก แม้จะอยู่ในแถบอาร์กติก แต่ก็มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน เหมาะสำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการความสะดวกสบายพร้อมกับการผจญภัย

  • Tromsø: เมืองยอดนิยมสำหรับการล่าแสงเหนือ มีทัวร์และกิจกรรมมากมายให้เลือก
  • Lofoten Islands: หมู่เกาะที่มีวิวธรรมชาติสวยงามและโอกาสเห็นแสงเหนือสูง
  • Alta: เมืองเล็ก ๆ ที่มี Northern Lights Cathedral เป็นจุดเด่น และเหมาะสำหรับการชมแสงเหนือแบบเงียบสงบ

เคล็ดลับการล่าแสงเหนือให้เห็นชัวร์

  1. เลือกช่วงเวลาที่เหมาะสม: เดือนกันยายนถึงมีนาคมเป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการล่าแสงเหนือ
  2. หนีแสงเมือง: หลีกเลี่ยงการล่าแสงเหนือในเมืองใหญ่ที่มีมลภาวะแสงสูง เลือกจุดที่อยู่ห่างจากแสงไฟจะมีโอกาสเห็นชัดกว่า
  3. เช็กพยากรณ์แสงเหนือ: ใช้แอปพลิเคชันหรือเว็บไซต์พยากรณ์แสงเหนือ เช่น Aurora Forecast เพื่อดูโอกาสการปรากฏของแสงเหนือในแต่ละวัน
  4. เตรียมกล้องให้พร้อม: การถ่ายแสงเหนือต้องใช้การตั้งค่ากล้องที่เหมาะสม เช่น การใช้ความเร็วชัตเตอร์ต่ำและ ISO สูง
  5. แต่งตัวให้อุ่น: เนื่องจากการล่าแสงเหนือมักต้องใช้เวลานานกลางแจ้งในอุณหภูมิต่ำ การแต่งตัวหลายชั้นและสวมเสื้อผ้าที่กันลมและกันน้ำจึงเป็นสิ่งจำเป็น

อุปกรณ์ที่ควรพกสำหรับการล่าแสงเหนือ

  • กล้อง DSLR หรือ Mirrorless: พร้อมเลนส์มุมกว้างและรูรับแสงกว้าง (f/2.8 หรือต่ำกว่า)
  • ขาตั้งกล้อง: เพื่อให้ภาพไม่สั่นไหวขณะถ่ายด้วยความเร็วชัตเตอร์ต่ำ
  • รีโมตชัตเตอร์หรือการตั้งเวลาถ่าย: ช่วยลดการสั่นของกล้องขณะกดชัตเตอร์
  • ไฟฉายหรือไฟหัว: สำหรับการเดินในที่มืด และการตั้งค่ากล้องในเวลากลางคืน

สรุป

การล่าแสงเหนือเป็นประสบการณ์ที่น่าตื่นเต้นและคุ้มค่า สำหรับใครที่กำลังวางแผนเดินทาง ฟินแลนด์ ไอซ์แลนด์ และนอร์เวย์ต่างก็มีเสน่ห์และจุดเด่นเฉพาะตัว เลือกประเทศที่เหมาะกับสไตล์การเดินทางของตัวเอง แล้วเตรียมตัวให้พร้อมสำหรับการผจญภัยใต้แสงสีเขียวบนท้องฟ้า!

การเดินทางไปล่าแสงเหนือมักต้องเผชิญกับสภาพอากาศที่หนาวจัดและเส้นทางที่ท้าทาย การมีประกันเดินทางจาก insurverse ติดตัวไว้ช่วยเพิ่มความอุ่นใจตลอดทริป ไม่ว่าจะเป็นการล่าช้าในการเดินทาง กระเป๋าเดินทางหาย หรือเกิดเหตุฉุกเฉินด้านสุขภาพ ประกันเดินทางของ insurverse พร้อมซัพพอร์ตทันทีตลอด 24 ชั่วโมง เลือกซื้อแบบรายเที่ยวหรือรายปีก็ได้ตามไลฟ์สไตล์ของคุณ การเดินทางของคุณจะเต็มไปด้วยความสนุกโดยไม่มีอะไรสะดุด!

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับการล่าแสงเหนือ

โอกาสเห็นแสงเหนือมีมากแค่ไหน?

ขึ้นอยู่กับสถานที่และช่วงเวลา การเลือกประเทศและเมืองที่อยู่ใกล้กับขั้วโลกเหนือในช่วงฤดูหนาวจะเพิ่มโอกาสเห็นแสงเหนือได้มากขึ้น

จำเป็นต้องจองทัวร์ล่าแสงเหนือหรือไม่?

ไม่จำเป็นเสมอไป ถ้ามีรถยนต์และสามารถขับไปยังจุดที่มืดพอได้เอง แต่ทัวร์ล่าแสงเหนือมักมีไกด์ผู้เชี่ยวชาญที่รู้จุดที่เหมาะสมและสามารถให้ข้อมูลเพิ่มเติมได้

แสงเหนือปรากฏทุกคืนหรือไม่?

ไม่ใช่ทุกคืนที่จะเห็นแสงเหนือ การปรากฏของแสงเหนือขึ้นอยู่กับกิจกรรมทางสุริยะและสภาพอากาศในพื้นที่

ต้องเตรียมเสื้อผ้าแบบไหนสำหรับการล่าแสงเหนือ?

เสื้อผ้าหนา ๆ หลายชั้น เสื้อกันลม กันน้ำ ถุงมือ หมวก และรองเท้ากันหนาวเป็นสิ่งจำเป็น เนื่องจากต้องอยู่กลางแจ้งในอุณหภูมิต่ำเป็นเวลานาน

ถ่ายรูปแสงเหนือด้วยมือถือได้ไหม?

โทรศัพท์มือถือรุ่นใหม่ ๆ ที่มีโหมดถ่ายกลางคืนสามารถจับภาพแสงเหนือได้ แต่ผลลัพธ์อาจไม่สวยเท่ากล้อง DSLR หรือ Mirrorless

check_circleคัดลอกลิงก์เรียบร้อย