ก่อนจะไปรู้เคล็ดลับการสอบใบขับขี่ รู้กันหรือเปล่าว่าใครที่สามารถอยู่ในเกณฑ์ที่สอบใบขับขี่ได้บ้าง? การที่จะสอบใบขับขี่ไม่ใช่เพียงแค่อายุ 18 ปีบริบูรณ์เท่านั้น แต่ยังต้องมีคุณสมบัติอื่น ๆ อีกด้วย มีอะไรบ้าง ไปดูกัน
1. อายุไม่ต่ำกว่า 18 ปีบริบูรณ์2. มีความรู้ ความสามารถในการขับรถ3. รู้กฎหมายจราจรทางบก4. สามารถขับรถได้ ไม่เป็นผู้มีร่างกายพิการ 5. ไม่มีโรคประจำตัวที่เป็นอันตรายต่อการขับรถ6. ไม่เป็นบุคคลวิกลจริต หรือจิตฟั่นเฟือน7. ไม่เคยมีใบขับขี่ชนิดเดียวกันอยู่แล้ว8. ไม่เป็นผู้อยู่ระหว่างถูกยึดหรือเพิกถอนใบขับขี่
ส่วนวิธีการที่จะสอบใบขับขี่จะมีอยู่หลายวิธี สามารถเลือกได้ตามความสะดวก ใครสะดวกไปที่กรมขนส่งก็สามารถทำได้ หรือใครอยากทำผ่านออนไลน์ก็สามารถทำได้เช่นกัน 4 วิธีสอบใบขับขี่ มีดังนี้
การจะไปสอบและทำใบขับขี่ก็ต้องทำนัดผ่านระบบการจองคิวของกรมขนส่งทางบกก่อน ผ่านทาง DLT Smart Queue หรือที่ gecc.dlt.go.th ซึ่งจะต้องไปตามวันเวลาที่ได้ทำการจองคิวไว้ หากไม่ได้ไปตามวันเวลาดังกล่าวจะต้องทำการจองคิวใหม่ โดยมีแค่ค่าใช้จ่ายเพียง 205 บาท
วิธีนี้เป็นอีกวิธีที่ช่วยทำให้การออกใบขับขี่นั้นรวดเร็วมากขึ้น เพราะจะมีจัดให้มีการอบรมพื้นฐานการขับขี่รถในภาคทฤษฎีให้ก่อน ซึ่งระยะเวลาในการอบรมจะเท่ากับการไปอบรมที่กรมขนส่งทางบก ก็คือจะต้องอบรมทั้งหมด 5 ชั่วโมง ข้อดีของการอบรมแบบนี้คือ ไม่จองคิวเพื่อขออบรมและสอบแล้ว เมื่ออบรมเสร็จจะได้รับใบแสดงผลผ่านการอบรมสามารถนำไปยื่นให้กับกรมขนส่งทางบกเพื่อทำขั้นตอนต่อไป ไม่ว่าจะตรวจสอบสมรรถภาพ การสอบข้อเขียน และการสอบภาคปฏิบัติได้ในทันที แต่การจัดอบรมก่อนออกใบขับขี่นี้จะมีไม่บ่อย นอกจากนี้ยังมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมจากค่าธรรมเนียมสำหรับการออกใบขับขี่ เป็นค่าอบรมนอกเวลา ประมาณ 200 – 300 บาท แล้วแต่ผู้จัดงานจะกำหนด
การอบรมใบขับขี่ออนไลน์แม้จะสะดวกและง่าย แต่กรมขนส่งทางบกอนุญาตเฉพาะกรณีต่อใบขับขี่เท่านั้น หากเป็นการสอบใบขับขี่เป็นครั้งแรกต้องไปใช้วิธีที่ 1, 2 หรือ 4 ได้ แต่ไม่สามารถอบรมผ่านระบบออนไลน์ได้ โดยจะทำผ่านทาง DLT Smart Queue หรือที่ gecc.dlt.go.th เมื่ออบรมเสร็จแล้วจะมีออกเอกสารให้ สามารถนำเอกสารนี้ไปยื่นกับกรมขนส่งทางบกเพื่อขอรับใบขับขี่ใบใหม่ได้เลย มีค่าธรรมเนียมในการต่ออายุใบขับขี่ 500 บาทต่ออายุการใช้งาน 5 ปี
กรณีถ้าคุณเรียนขับรถยนต์กับโรงเรียนสอบขับรถแล้ว สามารถอบรมและสอบผ่านโรงเรียนสอนขับรถได้เลย วิธีนี้แม้จะง่ายและสะดวกที่สุด แต่ก็จะมีค่าใช้จ่ายสูงที่สุดเช่นกัน เพราะต้องเรียนขับรถกับโรงเรียนเท่านั้นถึงจะสอบได้ โดยราคาจะอยู่ที่ประมาณ 4,000 บาทขึ้นไปแล้วแต่โรงเรียน
หลังจากรู้แล้วว่าถ้าจะสอบใบขับขี่ต้องสอบที่ไหนบ้าง มาเก็บเคล็ดลับสอบใบขับขี่ภาคปฏิบัติกันว่ามีอะไรบ้าง รู้ไว้ก่อน จะได้สอบผ่านฉลุย
สำหรับท่าสอบใบขับขี่รถยนต์ จะมีอยู่ด้วยกัน 3 ท่าที่ต้องฝึกให้ชำนาญ จะได้สอบผ่านได้อย่างรวดเร็ว มีทั้งหมด ดังนี้
1. ท่าเดินหน้าและถอยหลัง
ท่านี้จะง่ายที่สุดในบรรดาท่าสอบทั้งหมด โดยท่านี้จะบังคับให้ขับรถเดินหน้า 1 ครั้ง แล้วถอยหลัง 1 ครั้งในทางตรงระยะ 12 เมตร ตามช่องที่เจ้าหน้าที่กำหนดไว้ ซึ่งจะต้องไม่ให้รถไปชนสิ่งกีดขวาง ถ้าใครยังไม่ชำนาญ ให้ขับรถเดินหน้าและถอยหลังตามช่องอย่างช้า ๆ และอย่าลืมเช็กระยะห่างทั้งซ้ายและขวาให้ดีด้วย
2. ท่าจอดรถเทียบทางเท้า
ถ้าท่าเดินหน้าและถอยหลังเป็นท่าที่ง่ายที่สุด ท่าจอดรถเทียบทางเท้าก็ถือเป็นท่าสุดหิน ทำให้หลายคนสอบตกกันมาเยอะแล้ว ไม่ว่าจะ ขับรถปีนฟุตบาท หรือ จอดรถไม่ขนานกับขอบทาง ถ้าจะให้สอบผ่านในท่านี้ต้องทำให้ล้อรถ 2 ล้อขนานกับขอบทางเท้าด้านซ้าย ห่างไม่เกิน 25 ซม. และต้องไม่ชนกับขอบทางด้วย
3. ท่าจอดรถถอยหลังเข้าซอง
หาก 2 ท่าข้างต้นคุณผ่านการทดสอบมาแล้ว มาจนถึงท่าจอดรถถอยหลังเข้าซอง บอกเลยว่าเป็นท่าที่ต้อใช้สมาธิมาก ๆ เพราะเป็นหนึ่งในท่าปราบเซียนของคนขับรถเลย และนอกจากนี้เขายังมีกำหนดให้เปลี่ยนเกียร์ไม่เกิน 7 ครั้ง ต้องไม่เบียดชนเสาหรือขอบข้างทางเด็ดขาด และกระจกข้างต้องไม่เกินเส้นที่กำหนดด้วย
เทคนิคที่ทำให้สอบท่าถอยรถเข้าจอดผ่าน คือให้หมุนพวงมาลัยไปด้านซ้ายสุด แล้วค่อยถอยหลังช้า ๆ ระหว่างนั้นให้มองกระจกด้านขวาเพื่อสังเกตเสาให้ครบ 3 ต้น หากเห็นแล้วให้หยุดทันที จากนั้นหมุนพวงมาลัยกลับมาให้ล้อตรง ถอยหลังเข้ามาในตำแหน่งหัวรถด้านซ้ายกับเสาต้นที่ 3 แล้วหยุด แล้วหมุนพวงมาลัยกลับไปทางขวาสุด ถอยหลังช้า ๆ ให้ตัวรถเข้าซอง ขนานกับเส้นจอด เป็นอันสิ้นเรียบร้อย
และถ้าสอบใบขับขี่แบบเกียร์ธรรมดา จะมีท่าที่ต่างจากเกียร์อัตโนมัติ คือจะมีท่าหยุดรถและออกรถบนถนนลาดเพิ่มเข้ามาด้วย และเกียร์ธรรมดาต้องระวังไม่ให้เครื่องดับขณะสอบ ไม่อย่างนั้นอาจจะต้องกลับมาสอบใหม่อีกครั้ง
หลังจากสอบใบขับขี่ผ่านแล้วเรียบร้อยและมีรถยนต์พร้อมขับแล้ว อย่าลืมทำ พ.ร.บ. รถ และประกันรถยนต์ด้วยนะ เพื่อความปลอดภัยของเงินในกระเป๋าคุณที่ไม่ต้องควักเนื้อตัวเองเมื่อเกิดเหตุไม่คาดฝัน การมีประกันจะช่วยคุณเซฟทั้งเวลา ทั้งค่าใช้จ่ายที่จะเกิดขึ้น ยิ่งเมื่อซื้อ พ.ร.บ. พร้อมประกันรถที่อินชัวร์เวิร์ส บอกเลยว่าคุ้ม ซื้อง่าย ซื้อแล้วรับกรมธรรม์ทางอีเมลได้เลย เช็กราคาและซื้อออนไลน์ได้ตลอด 24 ชม.ที่ insurverse.co.th
check_circleคัดลอกลิงก์เรียบร้อย
ใกล้เทศกาลปีใหม่แล้ว ลองมาหาไอเดียของขวัญจับฉลากปีใหม่ตามงบ มีงบเท่าไหร่ซื้ออะไรได้บ้างถึงสุขใจคนให้ถูกใจคนรับ
รถไฟฟ้า หรือ รถ EV ต่างเข้ามามีบทบาทในประเทศไทยมากขึ้น โดยเฉพาะในยุคที่ราคาน้ำมันมีแต่จะปรับตัวสูงขึ้นเรื่อย ๆ และความตระหนักถึงสิ่งแวดล้อม จึงทำให้เห็นผู้ผลิตรถ EV หลากหลายแบรนด์ต่างเข็นรถที่มีออกมาจำหน่าย
ไม่อยากเสียสิทธิ์ต้องรีบเช็คสวัสดิการแห่งรัฐรอบใหม่ใครลงทะเบียนได้บ้าง insurverse พร้อมบอกรายละเอียดขั้นตอนการเตรียมตัวแบบเจาะลึก จบทุกประเด็น