vertical_align_top
keyboard_arrow_leftย้อนกลับ
ตะลุย 8 สนามฟุตบอลในอังกฤษ ที่คอบอลห้ามพลาด

ตะลุย 8 สนามฟุตบอลในอังกฤษ ที่คอบอลห้ามพลาด

schedule
share

อังกฤษไม่ใช่แค่บ้านของทีมฟุตบอลระดับโลก แต่ยังเต็มไปด้วยสนามฟุตบอลที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานและบรรยากาศการแข่งขันที่เข้มข้นสุด ๆ ไม่ว่าจะเป็นสนามเก่าแก่ที่เต็มไปด้วยเรื่องราว หรือสนามใหม่ที่ทันสมัยและเต็มไปด้วยเทคโนโลยี การได้ไปเยือนสนามเหล่านี้คือประสบการณ์ที่คอบอลตัวจริงไม่ควรพลาด แต่ก่อนจะเก็บกระเป๋าไปเชียร์ทีมรัก อย่าลืมเช็กเบี้ยประกันเดินทางจาก insurverse ที่มีเบี้ยเริ่มต้นเพียง 59 บาทต่อทริป คุ้มครองครอบคลุมไม่ว่าจะไฟล์ทดีเลย์หรือกระเป๋าหาย ให้คุณลุยได้เต็มที่โดยไม่ต้องกังวลเรื่องไม่คาดฝัน

เวมบลีย์ สเตเดี้ยม (Wembley Stadium)

เวมบลีย์ สเตเดี้ยม ไม่ได้เป็นแค่สนามฟุตบอลธรรมดา ๆ แต่เป็นสนามที่เต็มไปด้วยประวัติศาสตร์และความยิ่งใหญ่ในโลกฟุตบอล ตั้งอยู่ในลอนดอน สนามแห่งนี้เป็นสนามเหย้าของทีมชาติอังกฤษและเป็นสถานที่จัดการแข่งขันนัดสำคัญอย่าง FA Cup Final และการแข่งขันระดับนานาชาติมากมาย การออกแบบโดดเด่นด้วยซุ้มโค้งสีขาวขนาดใหญ่ที่สามารถมองเห็นได้จากระยะไกล ซึ่งกลายเป็นสัญลักษณ์ของสนามแห่งนี้ไปแล้ว ความจุที่มหาศาลทำให้บรรยากาศในวันแข่งขันเต็มไปด้วยความเร้าใจและพลังจากแฟนบอลทั่วทุกมุมโลก

  • ความจุ: 90,000 ที่นั่ง เป็นสนามที่ใหญ่ที่สุดในสหราชอาณาจักรและใหญ่เป็นอันดับสองของยุโรป
  • เปิดใช้งานครั้งแรก: สนามเวมบลีย์แห่งใหม่เปิดในปี 2007 แทนที่สนามเวมบลีย์เดิมที่เปิดในปี 1923
  • ซุ้มโค้ง (Wembley Arch): ยาว 315 เมตร และสูง 133 เมตร เป็นโครงสร้างที่ใหญ่ที่สุดในโลกที่ไม่มีการรองรับจากเสา
  • พื้นสนาม: ใช้หญ้าแบบผสมผสานระหว่างธรรมชาติและเทียม เพื่อความทนทานในการใช้งานหลายประเภท
  • เหตุการณ์สำคัญ: นัดชิงยูฟ่าแชมเปียนส์ลีกปี 2011 และ 2013, คอนเสิร์ตศิลปินระดับโลกเช่น Adele และ Ed Sheeran

โอลด์ แทรฟฟอร์ด (Old Trafford)

โอลด์ แทรฟฟอร์ด สนามเหย้าของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ได้รับฉายาว่า “The Theatre of Dreams” หรือโรงละครแห่งความฝัน สนามนี้ไม่เพียงแต่เป็นที่จัดการแข่งขันฟุตบอล แต่ยังเป็นสถานที่ที่เต็มไปด้วยประวัติศาสตร์และความสำเร็จของสโมสรที่ยิ่งใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งในโลก การออกแบบของสนามทำให้ผู้ชมสามารถมองเห็นสนามได้อย่างชัดเจนจากทุกมุม นอกจากนี้ยังมีพิพิธภัณฑ์และทัวร์สนามที่ให้แฟนบอลได้สัมผัสกับประวัติศาสตร์ของสโมสรอย่างใกล้ชิด

  • ความจุ: 74,140 ที่นั่ง ใหญ่เป็นอันดับสองในอังกฤษ
  • เปิดใช้งานครั้งแรก: ปี 1910 และได้รับการบูรณะหลังสงครามโลกครั้งที่สอง
  • พิพิธภัณฑ์แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด: หนึ่งในพิพิธภัณฑ์สโมสรที่มีผู้เข้าชมมากที่สุดในโลก
  • ระยะทางจากใจกลางเมืองแมนเชสเตอร์: ประมาณ 3 กิโลเมตร สามารถเดินทางด้วยรถไฟหรือรถรางได้อย่างสะดวก
  • เหตุการณ์สำคัญ: จัดการแข่งขันฟุตบอลโลกปี 1966 และยูโร 1996 รวมถึงนัดชิง FA Cup หลายครั้ง

แอนฟิลด์ (Anfield)

แอนฟิลด์ สนามเหย้าของลิเวอร์พูล เอฟซี เป็นสนามที่เต็มไปด้วยบรรยากาศการเชียร์ที่เร้าใจจากแฟนบอลโดยเฉพาะการร้องเพลง “You’ll Never Walk Alone” ที่ดังสนั่นก่อนเริ่มการแข่งขัน สนามแห่งนี้มีประวัติศาสตร์ยาวนานตั้งแต่ปี 1892 และเป็นหนึ่งในสนามที่แฟนบอลทั่วโลกต้องการไปเยือนสักครั้งในชีวิต

  • ความจุ: 54,074 ที่นั่ง และกำลังขยายให้ได้ถึง 61,000 ที่นั่งในอนาคต
  • เปิดใช้งานครั้งแรก: ปี 1884 โดยเดิมทีเป็นสนามเหย้าของเอฟเวอร์ตันก่อนที่จะกลายเป็นของลิเวอร์พูลในปี 1892
  • The Kop: อัฒจันทร์ฝั่งที่มีแฟนบอลลิเวอร์พูลที่ขึ้นชื่อว่าดังที่สุดในโลก รองรับแฟนบอลได้ประมาณ 12,390 คน
  • พิพิธภัณฑ์ลิเวอร์พูล เอฟซี: แสดงถ้วยรางวัลและของที่ระลึกสำคัญจากประวัติศาสตร์ของสโมสร
  • ระยะทางจากใจกลางเมืองลิเวอร์พูล: ประมาณ 3 กิโลเมตร สามารถเดินทางด้วยรถประจำทางหรือแท็กซี่ได้สะดวก

เอมิเรตส์ สเตเดี้ยม (Emirates Stadium)

เอมิเรตส์ สเตเดี้ยม สนามเหย้าของอาร์เซนอล เอฟซี เป็นสนามที่ทันสมัยที่สุดแห่งหนึ่งในอังกฤษ การออกแบบสนามที่ล้ำสมัยทำให้มีบรรยากาศการเชียร์ที่ยอดเยี่ยมและสามารถรองรับแฟนบอลได้จำนวนมาก สนามแห่งนี้ยังมี Arsenal Museum ที่บอกเล่าเรื่องราวประวัติศาสตร์ของสโมสรอย่างละเอียด

  • ความจุ: 60,704 ที่นั่ง ใหญ่เป็นอันดับสามในอังกฤษ
  • เปิดใช้งานครั้งแรก: ปี 2006 แทนที่สนามไฮบิวรีเดิม
  • พื้นสนาม: ใช้หญ้าแบบ Desso GrassMaster ที่มีความทนทานสูง
  • The Arsenalisation: การตกแต่งภายในสนามด้วยรูปภาพและประวัติศาสตร์ของสโมสรเพื่อสร้างบรรยากาศของทีม
  • ระยะทางจากใจกลางลอนดอน: ประมาณ 6 กิโลเมตร สามารถเดินทางด้วยรถไฟใต้ดินลงที่สถานี Arsenal

สแตมฟอร์ด บริดจ์ (Stamford Bridge)

สแตมฟอร์ด บริดจ์ สนามเหย้าของเชลซี เอฟซี ตั้งอยู่ในย่านฟูแลมของลอนดอน สนามแห่งนี้มีประวัติศาสตร์ยาวนานกว่า 100 ปี และเป็นหนึ่งในสนามที่มีความเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว บรรยากาศการเชียร์ที่เข้มข้นและความใกล้ชิดระหว่างผู้ชมกับสนามทำให้ที่นี่เป็นสถานที่ที่แฟนบอลทั่วโลกต้องการมาเยือน

  • ความจุ: 40,341 ที่นั่ง
  • เปิดใช้งานครั้งแรก: ปี 1877 และกลายเป็นสนามเหย้าของเชลซีตั้งแต่ปี 1905
  • Chelsea Museum: พิพิธภัณฑ์ของสโมสรที่แสดงถ้วยรางวัลและเรื่องราวสำคัญในประวัติศาสตร์
  • พื้นสนาม: ใช้หญ้าแบบ Mixto Hybrid Grass ซึ่งผสมผสานระหว่างหญ้าธรรมชาติและเทียม
  • ระยะทางจากใจกลางลอนดอน: ประมาณ 5 กิโลเมตร สามารถเดินทางด้วยรถไฟใต้ดินลงที่สถานี Fulham Broadway

เอติฮัด สเตเดี้ยม (Etihad Stadium)

เอติฮัด สเตเดี้ยม สนามเหย้าของแมนเชสเตอร์ ซิตี้ เป็นสนามที่ทันสมัยและเต็มไปด้วยเทคโนโลยีล้ำสมัย สนามแห่งนี้มีการออกแบบที่เน้นความสะดวกสบายของแฟนบอลและเป็นศูนย์กลางของการพัฒนาฟุตบอลในแมนเชสเตอร์

  • ความจุ: 53,400 ที่นั่ง
  • เปิดใช้งานครั้งแรก: ปี 2003 โดยเดิมทีสร้างเพื่อใช้ในการแข่งขันกีฬาเครือจักรภพปี 2002
  • พื้นสนาม: ใช้หญ้าแบบ SISGrass Hybrid ที่มีความทนทานและเหมาะกับการเล่นฟุตบอลระดับสูง
  • The City Football Academy: ศูนย์ฝึกซ้อมที่ทันสมัยที่สุดในโลก อยู่ติดกับสนามเอติฮัด
  • ระยะทางจากใจกลางเมืองแมนเชสเตอร์: ประมาณ 2 กิโลเมตร สามารถเดินทางด้วยรถราง Metrolink ได้อย่างสะดวก

เซนต์ เจมส์ พาร์ค (St. James’ Park)

เซนต์ เจมส์ พาร์ค สนามเหย้าของนิวคาสเซิล ยูไนเต็ด เป็นหนึ่งในสนามที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวด้วยที่ตั้งใจกลางเมืองและวิวที่สามารถมองเห็นได้จากระยะไกล สนามแห่งนี้เต็มไปด้วยประวัติศาสตร์และบรรยากาศการเชียร์ที่เร้าใจจากแฟนบอลที่มีความภักดีต่อทีมอย่างสูง

  • ความจุ: 52,305 ที่นั่ง
  • เปิดใช้งานครั้งแรก: ปี 1892
  • พื้นสนาม: ใช้หญ้าแบบ Desso GrassMaster ที่มีความทนทานสูง
  • ระยะทางจากใจกลางเมืองนิวคาสเซิล: อยู่ใจกลางเมือง สามารถเดินทางด้วยการเดินเท้าหรือรถประจำทางได้อย่างสะดวก
  • เหตุการณ์สำคัญ: จัดการแข่งขันฟุตบอลโลกปี 1966 และโอลิมปิกปี 2012

วิลล่า พาร์ค (Villa Park)

วิลล่า พาร์ค สนามเหย้าของแอสตัน วิลล่า เป็นสนามที่เต็มไปด้วยประวัติศาสตร์และเป็นหนึ่งในสนามที่เก่าแก่ที่สุดในอังกฤษ สนามแห่งนี้มีการออกแบบที่โดดเด่นและบรรยากาศการเชียร์ที่เข้มข้นจากแฟนบอล

  • ความจุ: 42,657 ที่นั่ง
  • เปิดใช้งานครั้งแรก: ปี 1897
  • พื้นสนาม: ใช้หญ้าแบบ Mixto Hybrid Grass
  • ระยะทางจากใจกลางเมืองเบอร์มิงแฮม: ประมาณ 3 กิโลเมตร สามารถเดินทางด้วยรถไฟลงที่สถานี Witton
  • เหตุการณ์สำคัญ: จัดการแข่งขันฟุตบอลโลกปี 1966 และยูโร 1996

การได้ไปเยือนสนามฟุตบอลในอังกฤษไม่ใช่แค่เรื่องของการชมเกมแข่งขันเท่านั้น แต่ยังเป็นโอกาสในการสัมผัสประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมฟุตบอลที่ฝังรากลึกในสังคมอังกฤษ ไม่ว่าจะเป็นความอลังการของสนามเวมบลีย์ หรือบรรยากาศดุดันในแอนฟิลด์ ทุกสนามล้วนมีเสน่ห์เฉพาะตัวที่รอให้ไปสัมผัสด้วยตัวเอง และเพื่อให้ทริปนี้สนุกแบบไม่มีสะดุด อย่าลืมเลือก insurverse ประกันเดินทาง ที่จัดความคุ้มครองให้แบบเน้น ๆ พร้อมซัพพอร์ต 24 ชั่วโมง จะเดินทางไปเชียร์บอลกี่ครั้งต่อปีก็อุ่นใจ เพราะ insurverse มีประกันรายปีที่คุ้มครองตลอดทั้งปี ให้คุณลุยได้ทุกแมตช์แบบไร้กังวล

5 คำถามที่พบบ่อย

สนามฟุตบอลที่ใหญ่ที่สุดในอังกฤษคือสนามไหน?

สนามเวมบลีย์ สเตเดี้ยมในลอนดอนคือสนามฟุตบอลที่ใหญ่ที่สุดในอังกฤษ โดยมีความจุถึง 90,000 ที่นั่ง และเป็นสนามเหย้าของทีมชาติอังกฤษ

สนามไหนในอังกฤษที่มีบรรยากาศการเชียร์เข้มข้นที่สุด?

สนามแอนฟิลด์ของลิเวอร์พูล เอฟซี ขึ้นชื่อเรื่องบรรยากาศการเชียร์ที่เร้าใจ โดยเฉพาะเสียงร้องเพลง “You’ll Never Walk Alone” ที่ดังกระหึ่มก่อนการแข่งขัน

สามารถเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์ของสโมสรฟุตบอลในอังกฤษได้ที่ไหนบ้าง?

สามารถเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์ได้ที่สนามโอลด์ แทรฟฟอร์ด ของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด, เอมิเรตส์ สเตเดี้ยม ของอาร์เซนอล และสแตมฟอร์ด บริดจ์ ของเชลซี ซึ่งจัดแสดงประวัติศาสตร์และถ้วยรางวัลของสโมสร

การเดินทางไปสนามฟุตบอลในอังกฤษสะดวกแค่ไหน?

สนามฟุตบอลส่วนใหญ่ในอังกฤษตั้งอยู่ใกล้ใจกลางเมืองและสามารถเดินทางได้สะดวกด้วยระบบขนส่งสาธารณะ เช่น รถไฟใต้ดิน รถราง และรถประจำทาง

สนามฟุตบอลในอังกฤษมีการจัดกิจกรรมอะไรนอกจากการแข่งขันฟุตบอล?

หลายสนามจัดกิจกรรมอื่น ๆ เช่น คอนเสิร์ตระดับโลกที่เวมบลีย์ สเตเดี้ยม หรือทัวร์ชมสนามและศูนย์ฝึกซ้อมที่เอติฮัด สเตเดี้ยม ของแมนเชสเตอร์ ซิตี้

check_circleคัดลอกลิงก์เรียบร้อย