vertical_align_top
keyboard_arrow_leftย้อนกลับ
ประกันรถยนต์ คือ

รู้ไว้! “ประกันรถยนต์ คืออะไร? เลือกยังไงให้คุ้ม (อัปเดต 2025)

schedule
share

ในปัจจุบัน รถยนต์ไม่ได้เป็นเพียงแค่ยานพาหนะสำหรับการเดินทาง แต่ยังเป็นส่วนสำคัญของชีวิตประจำวันของเรา การมีประกันรถยนต์จึงเป็นสิ่งที่ไม่ควรมองข้าม เนื่องจากประกันรถยนต์จะช่วยให้คุณรู้สึกมั่นใจเมื่อขับขี่บนท้องถนน และยังคุ้มครองในหลาย ๆ สถานการณ์ที่อาจเกิดขึ้นกับรถของคุณได้

แต่คำถาม ประกันรถยนต์ คืออะไร มีประเภทไหนบ้าง และแต่ละประเภทคุ้มครองอะไรบ้าง? บทความนี้จาก insurverse จะช่วยให้คุณเข้าใจภาพรวมของประกันรถยนต์และทำความรู้จักกับแต่ละประเภท เพื่อช่วยในการตัดสินใจเลือกประกันที่เหมาะสมกับการใช้งานของคุณที่สุด

สารบัญบทความ

ประกันรถยนต์ คืออะไร?

ประกันรถยนต์ คือ การทำสัญญาประกันภัยที่ผู้ขับขี่หรือเจ้าของรถยนต์ทำกับบริษัทประกันภัย เพื่อรับการคุ้มครองจากความเสี่ยงต่าง ๆ ที่อาจเกิดขึ้นกับรถยนต์หรือผู้ใช้รถยนต์ รวมถึงบุคคลภายนอกที่อาจได้รับผลกระทบจากการใช้รถยนต์นั้น ๆ เช่น ในกรณีของอุบัติเหตุ การถูกขโมย ความเสียหายจากภัยธรรมชาติ หรือความเสียหายอื่น ๆ ที่เกิดขึ้นกับรถยนต์

ผู้ทำประกันจะต้องชำระเบี้ยประกันภัยเป็นรายเดือนหรือรายปี เพื่อรับความคุ้มครองนี้ และในกรณีที่เกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิดที่ครอบคลุมโดยประกันภัย บริษัทประกันภัยจะช่วยจัดการหรือชดเชยค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องตามเงื่อนไขของกรมธรรม์และประกันรถยนต์ที่ได้ทำไว้

ประกันรถยนต์มีกี่ประเภท?

การมีประกันรถยนต์ถือเป็นสิ่งสำคัญที่ทุกคนควรพิจารณา เพื่อให้คุณมั่นใจเมื่อขับขี่และคุ้มครองในกรณีที่เกิดเหตุไม่คาดคิด หากคุณยังไม่แน่ใจว่า ประกันรถยนต์มีกี่ประเภท โดยทั่วไปแล้วจะแบ่งออกเป็น 2 ประเภทใหญ่ ๆ ดังนี้

ประกันรถยนต์ภาคบังคับ (พ.ร.บ.)

ประเภทประกันรถยนต์ภาคบังคับ หรือที่เรียกว่า พ.ร.บ. (Compulsory Third Party Insurance) คือ ประกันที่เป็นการบังคับตามกฎหมายในประเทศไทย ทุกคนที่ครอบครองรถยนต์จะต้องทำประกันรถยนต์ภาคบังคับอย่างน้อยตามกฎหมายที่กำหนดตามความคุ้มครองที่พระราชบัญญัติคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ พ.ศ. 2535 ที่ถูกออกแบบมาเพื่อให้ความคุ้มครองและช่วยเหลือผู้ที่ได้รับอันตรายหรือประสบภัยจากการใช้รถยนต์ในประเทศไทย รวมถึงครอบครัวของผู้ที่เสียชีวิตจากอุบัติเหตุที่เกี่ยวข้องกับรถยนต์ 

ประกันรถยนต์ภาคบังคับ (พ.ร.บ. รถยนต์) คือประกันที่คุ้มครองบุคคลภายนอกเมื่อคุณเป็นฝ่ายผิดจากอุบัติเหตุ ครอบคลุมค่ารักษาพยาบาล ค่าชดเชยชีวิต และทรัพย์สินที่เสียหาย ประกันรถยนต์คืออะไรที่สำคัญต่อผู้ใช้รถ ใช้ถนนทุกคน

ประกันรถยนต์ภาคสมัครใจ

ประกันรถยนต์ภาคสมัครใจ คือประกันที่เจ้าของรถเลือกทำเพิ่มเติมจาก พ.ร.บ. เพื่อความคุ้มครองที่ครอบคลุมมากขึ้น เช่น ความเสียหายต่อตัวรถ ค่ารักษาผู้ขับขี่ หรือความเสียหายจากภัยธรรมชาติ 

ประกันรถยนต์มีกี่ประเภท? จำแนกออกได้เป็น 4 ประเภทหลัก ได้แก่ ประกันชั้น 1, 2+, 3+ และชั้น 3 ซึ่งแต่ละประเภทของประกันอุบัติเหตุรถยนต์ให้ความคุ้มครองต่างกันตามระดับความเสี่ยงและค่าเบี้ยประกัน

เปรียบเทียบประกันรถยนต์ภาคสมัครใจแต่ละชั้น

ผู้ใช้รถทุกคนรู้ว่าการเปรียบเทียบประกันรถยนต์ คือสิ่งสำคัญก่อนตัดสินใจซื้อ ดังนั้น ลองมาทำความเข้าใจกันก่อนว่าแต่ละชั้นของประกันนั้นมีความคุ้มครองและข้อดีที่แตกต่างกันอย่างไร เพื่อช่วยให้คุณเลือกประกันที่เหมาะสมกับความต้องการและการใช้งานของคุณที่สุด

ประกันรถยนต์ชั้น 1

ประกันรถยนต์ชั้น 1 คือ ประเภทที่มีให้ความคุ้มครองประกันรถยนต์อย่างครอบคลุม โดยจะครอบคลุมทั้งความเสียหายทางรถยนต์ของคุณและความรับผิดชอบต่อบุคคลภายนอก ครอบคลุมทุกกรณี 

ประกันชั้น 1 คุ้มครองอะไรบ้าง มีดังนี้

  • คุ้มครองคนในรถ ดูแลทั้งผู้ขับขี่และผู้โดยสารไม่ว่าจะค่ารักษาอาการบาดเจ็บ ทุพพลภาพ หรือเสียชีวิต
  • คุ้มครองคู่กรณี รับผิดชอบความเสียหายหากคู่กรณีเป็นฝ่ายผิด แต่ไม่มีประกันหรือประกันไม่เพียงพอ
  • คุ้มครองตัวรถ คุ้มครองทั้งตัวรถและอุปกรณ์ตกแต่งที่ออกมาจากศูนย์บริการ
  • คุ้มครองความเสียหายที่เกิดจากอุบัติเหตุ ไฟไหม้ น้ำท่วม ภัยธรรมชาติ หรือเหตุการณ์ที่ไม่ควบคุมได้
  • คุ้มครองความเสียหายที่เกิดจากการขโมยรถ
  • คุ้มครองความเสียหายที่เกิดจากสาเหตุอื่นที่ไม่ใช่การกระแทก เช่น การล้ม การชนต้นไม้ หรือการชนสัตว์ หนูกัดสายไฟ หินกระเด็นใส่ ของหล่นใส่รถ

ประกันชั้น 1 ถือเป็นประเภทที่ให้ความคุ้มครองครบถ้วนที่สุด โดยนอกจากจะดูแลความเสียหายต่อรถของคุณเองแล้ว ยังคุ้มครองความเสียหายและบาดเจ็บของบุคคลภายนอก ค่ารักษาพยาบาลของผู้ขับขี่และผู้โดยสารในรถ ความเสียหายจากเหตุการณ์อื่น ๆ เช่น ไฟไหม้ น้ำท่วม และการโจรกรรม 

ประกันรถยนต์ชั้น 1 เหมาะสำหรับ ผู้ใช้รถเป็นประจำ รถใหม่ หรือผู้ที่ต้องการความอุ่นใจสูงสุดจากทุกความเสี่ยง ประกันชั้น 1

ประกันรถยนต์ชั้น 2+

ประกันรถยนต์ชั้น 2+ เป็นประเภทประกันรถยนต์ที่มีระดับความคุ้มครองสูงกว่าประกันรถยนต์ชั้น 2 แต่ไม่ได้ครอบคลุมทุกรายละเอียดเหมือนประกันรถยนต์ชั้น 1 

ประกันชั้น 2+ คุ้มครองอะไรบ้าง มีดังนี้

  • คุ้มครองความเสียหายหรือสูญหายของรถยนต์ของคุณที่เกิดจากอุบัติเหตุ ไฟไหม้, ภัยธรรมชาติ หรือเหตุการณ์ที่ไม่ควบคุมได้
  • คุ้มครองความรับผิดชอบต่อบุคคลภายนอกที่ได้รับอันตรายหรือเสียชีวิตจากอุบัติเหตุที่คุณเป็นฝ่ายผิด รวมถึงค่าชดเชยทรัพย์สินและค่ารักษาพยาบาล
  • คุ้มครองความเสียหายที่เกิดจากการขโมยรถ
  • คุ้มครองความเสียหายที่เกิดจากสาเหตุอื่นที่ไม่ใช่การกระแทก เช่น ชนต้นไม้ ชนสัตว์ หรือชนกับยานพาหนะทางบกที่มีเครื่องยนต์ทุกชนิดและระบุคู่กรณีได้

ประกันชั้น 2+ เหมาะสำหรับ ผู้ที่ใช้รถไม่บ่อย ขับขี่อย่างระมัดระวัง หรือรถที่มีอายุการใช้งานหลายปีแต่ยังต้องการความคุ้มครองระดับสูงในราคาที่ประหยัดกว่าชั้น 1

ประกันรถยนต์ชั้น 3+

ประกันรถยนต์ชั้น 3+ เป็นประเภทประกันรถยนต์ที่อยู่ระหว่างประกันชั้น 2+ และชั้น 3 ในแง่ของความคุ้มครองและราคา เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการความคุ้มครองเพิ่มเติมเหนือกว่าประกันชั้น 3 แต่ไม่ต้องการจ่ายเบี้ยประกันสูงเท่ากับประกันชั้น 1 หรือชั้น 2+ 

ประกันรถยนต์ชั้น 3+ คุ้มครองอะไรบ้าง มีดังนี้

  • คุ้มครองคนในรถดูแลทั้งผู้ขับขี่และผู้โดยสารไม่ว่าจะค่ารักษาอาการบาดเจ็บ ทุพพลภาพ หรือเสียชีวิต
  • คุ้มครองคู่กรณี รับผิดชอบความเสียหายของทั้งรถ ทั้งคน คู่กรณี
  • คุ้มครองทั้งตัวรถและอุปกรณ์ตกแต่งที่ออกมาจากศูนย์บริการจากเหตุชนกับยานพาหนะทางบกที่มี
  • เครื่องยนต์ทุกชนิดและระบุคู่กรณีได้

ประกันรถยนต์ชั้น 3+ เหมาะสำหรับ ผู้ใช้รถไม่บ่อย มีทักษะการขับขี่ดี หรือมีงบจำกัดแต่ยังต้องการความคุ้มครองกรณีเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนนแบบไม่ประมาท

ประกันรถยนต์ชั้น 3

ประกันรถยนต์ชั้น 3 คือ ประกันรถยนต์ที่มีวัตถุประสงค์ในการให้ความคุ้มครองพื้นฐาน โดยเน้นที่การคุ้มครองความเสียหายที่เกิดกับบุคคลและทรัพย์สินของบุคคลอื่น แต่ไม่คุ้มครองความเสียหายที่เกิดกับรถยนต์ของผู้ที่ทำประกัน (ยกเว้นในบางกรณีที่เกิดจากการกระทำของบุคคลที่สาม) 

ประกันชั้น 3 คุ้มครองอะไรบ้าง? มีดังนี้

  • คุ้มครองคนในรถ ดูแลทั้งผู้ขับขี่และผู้โดยสารไม่ว่าจะค่ารักษาอาการบาดเจ็บ ทุพพลภาพ หรือเสียชีวิต
  • รับผิดชอบความเสียหายของทั้งรถ ทั้งคน คู่กรณี

ประกันชั้น 3 เหมาะสำหรับ ผู้ที่ขับรถน้อย รถมีอายุมาก หรือมีความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุต่ำ และต้องการความคุ้มครองในงบประมาณที่ประหยัดที่สุด

จำเป็นต้องทำประกันรถยนต์ไหม?

แม้การทำประกันรถยนต์ (ภาคสมัครใจ) จะไม่ใช่ข้อบังคับตามกฎหมายเหมือน พ.ร.บ. แต่ประกันรถยนต์ คือตัวเลือกเสริมที่ช่วยเพิ่มความมั่นใจและความปลอดภัยในการขับขี่ได้อย่างมาก โดยเฉพาะในสถานการณ์ไม่คาดคิด เช่น อุบัติเหตุ การชน หรือเหตุการณ์ไม่คาดฝัน

การประกันภัยรถยนต์จะช่วยรองรับภาระค่าใช้จ่ายที่อาจเกิดขึ้นอย่างมีระบบ ไม่ว่าจะเป็นค่าซ่อมรถ ค่ารักษาพยาบาล หรือความเสียหายต่อบุคคลภายนอก ลดความเสี่ยงในการใช้เงินออมหรือเกิดหนี้สินโดยไม่จำเป็น จึงเป็นการลงทุนเพื่อความอุ่นใจในระยะยาวสำหรับผู้ใช้รถทุกคน

เบี้ยประกันรถยนต์ขึ้นอยู่กับปัจจัยอะไรบ้าง?

การดูเบี้ยประกันก่อนตัดสินใจทำประกันรถยนต์ คืออีกหนึ่งสิ่งที่ไม่ควรมองข้าม ซึ่งมีปัจจัยหลายอย่างที่ส่งผลต่อค่าเบี้ยประกันในแต่ละชั้น โดยเฉพาะเมื่อเลือกความคุ้มครองที่ตรงกับการใช้งานจริง

  • ประเภทของประกันภัยรถยนต์ ชั้น 1 จะมีเบี้ยสูงสุดเพราะคุ้มครองครอบคลุมที่สุด ส่วนชั้น 3 เบี้ยต่ำกว่าเพราะให้ความคุ้มครองพื้นฐาน
  • อายุและประสบการณ์ของผู้ขับขี่ ผู้ขับขี่ที่อายุน้อยหรือมีประวัติการเกิดอุบัติเหตุจะถูกคิดเบี้ยสูงกว่ากลุ่มที่มีประสบการณ์ขับขี่มาก
  • ประวัติการเคลม หากมีประวัติการเคลมประกันบ่อย เบี้ยประกันรอบถัดไปอาจสูงขึ้น
  • อายุและสภาพรถยนต์ รถใหม่หรือรถที่มีมูลค่าสูงจะมีเบี้ยประกันสูงกว่ารถที่ใช้งานมานาน
  • ยี่ห้อและรุ่นของรถ รถบางรุ่นหรือรถที่ซ่อมแพง จะมีเบี้ยประกันสูงกว่ารุ่นที่ค่าซ่อมต่ำ
  • พื้นที่ใช้งานหลัก หากใช้งานในเขตที่มีความเสี่ยงสูง เช่น เขตเมืองหรือพื้นที่อุบัติเหตุบ่อย จะส่งผลต่อค่าเบี้ย
  • การเลือกซ่อม (ซ่อมห้าง / ซ่อมอู่) การเลือกซ่อมห้างจะมีค่าเบี้ยสูงกว่าซ่อมอู่ เนื่องจากมาตรฐานการซ่อมที่สูงกว่า

เลือกทำประกันรถยนต์ที่ไหนดี?

มากกว่าการตั้งคำถามว่า ประกันรถคุ้มครองอะไรบ้าง? อีกหนึ่งสิ่งสำคัญคือ ประกันรถยนต์มีบริษัทอะไรบ้าง? เลือกทำประกันรถยนต์ชั้น 1 ที่ไหนดี ซึ่งไม่ควรมองแค่เรื่องของราคาคุ่มค่าเท่านั้น แต่ควรมองให้ครอบคลุมทั้งความคุ้มครอง ความน่าเชื่อถือ และบริการหลังการขาย ลองพิจารณาจากปัจจัยเหล่านี้

  • ดูความคุ้มครองที่ต้องการ
    เลือกประเภทประกัน (ชั้น 1, 2+, 3+, 3) ให้เหมาะกับไลฟ์สไตล์และพฤติกรรมการขับขี่
  • เปรียบเทียบราคาและสิทธิประโยชน์
    ตรวจสอบเบี้ยประกันเทียบกับสิ่งที่ได้รับ เช่น ค่าซ่อม ค่าชดเชย และบริการเสริม
  • เลือกบริษัทประกันที่น่าเชื่อถือ
    พิจารณาชื่อเสียง ความมั่นคง และรีวิวจากลูกค้าจริง
  • ตรวจสอบเงื่อนไขและข้อยกเว้น
    อ่านรายละเอียดสัญญาให้ครบถ้วน โดยเฉพาะเงื่อนไขการเคลมและข้อยกเว้นความคุ้มครอง
  • เลือกแผนซ่อมที่เหมาะกับรถคุณ
    หากเป็นรถใหม่หรือรถหรู แนะนำให้เลือกซ่อมห้าง เพื่อคุณภาพงานซ่อมที่ได้มาตรฐาน
  • บริการหลังการขายและเคลมง่ายหรือไม่
    เลือกบริษัทที่มีบริการ Call Center 24 ชม. และมีระบบเคลมที่สะดวก รวดเร็ว

สรุปก่อนออกถนน “ประกันรถยนต์ คืออะไร? เลือกแบบไหนให้คุ้มค่า

สรุปแล้ว ประกันรถยนต์ คือ เครื่องมือสำคัญที่ช่วยปกป้องคุณจากค่าใช้จ่ายที่ไม่คาดคิด ไม่ว่าจะเกิดอุบัติเหตุ เล็กหรือใหญ่ การมีประกันที่ครอบคลุมจะช่วยให้คุณไม่ต้องควักเงินออม หรือรับภาระหนี้โดยไม่จำเป็น ยิ่งขับรถในเมืองที่ความเสี่ยงสูง ประกันภัยคือความอุ่นใจที่ควรมีติดรถไว้เสมอ และควรเลือกอย่างเหมาะสมว่าเบี้ยที่จ่าย ต้องเลือกประเภทประกันรถยนต์คุ้มครองอะไรบ้าง ต้องศึกษา และหาเกร็ดความรู้ ประกันภัยรถยนต์ อยู่เสมอ

หากคุณมองหาความคุ้มค่าที่ทำได้เองง่าย ๆ แนะนำ insurverse แพลตฟอร์มประกันออนไลน์เต็มรูปแบบ ซื้อง่าย เคลมไว ปรับแผนได้ตามต้องการ ไม่ผ่านตัวแทน ให้คุณเช็กราคาได้ง่าย ๆ 24 ชั่วโมง พร้อมระบบถ่ายรูปเคลมผ่านมือถือ และการดูแลจากมืออาชีพในเครือทิพยประกันภัย ทั้งหมดนี้ “เพื่อให้คุณมั่นใจทุกครั้งที่ออกเดินทาง”

check_circleคัดลอกลิงก์เรียบร้อย

© Copyright 2023 บริษัท อินชัวร์เวิร์ส จำกัด (มหาชน)